วิมานติดล้อ..ท่องโลก วิกรม กรมดิษฐ์
โดย : ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง
วิมานติดล้อ“มอเตอร์โฮม”คันใหญ่กับคาราวานท่องโลก พิชิตการเดินทางแสนกิโลเมตรภายในเวลา5ปีของวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าพ่อนิคมฯอมตะ
วิกรม กรมดิษฐ์ เปรียบเปรยช่วงชีวิตของเขาเป็นคล้ายดั่งวัฏจักรหนอนผีเสื้อ ในวันที่หลักกิโลเมตรชีวิตเข้าใกล้เลข 60 ชีวิตของซีอีโอหลุดโลกได้เวลาของการผลัดใบใหม่อีกรอบหนึ่ง
จากตัวดักแด้ที่เคยซุกตัวอยู่ในถ้ำ “กุฎาคาร” ที่เขาใหญ่ กำลังขยับปีกโผผินเป็นผีเสื้อบินสู่โลกกว้างด้วยวิมานติดล้อ “มอเตอร์โฮม” คันใหญ่ เริ่มต้นภารกิจคาราวานท่องโลก พิชิตการเดินทางแสนกิโลเมตรภายในเวลา 5 ปี
วิกรม เริ่มต้นประเดิมเส้นทางแรกด้วย “คาราวานท่องลุ่มน้ำโขง” โดยขบวนคาราวานประกอบด้วยรถมอเตอร์โฮม 3 คัน รถกระบะโตโยต้าวีโก้นำและปิดขบวน 2 คัน และทีมงานอีก 15 ชีวิต เพิ่งจะล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติในเมืองไทย และเตรียมข้ามต่อไปยังลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ มณฑลกวางสีและยูนนาน ต่อด้วยพม่า และวกกลับเข้าไทย สิ้นสุดการเดินทางที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ทริปนี้วิกรมจะใช้เวลาท่องโลกด้วยมอเตอร์โฮมนาน 3 เดือนเต็ม
เหตุผลที่เดินทางด้วย “รถบ้าน” หรือ “มอเตอร์โฮม” วิกรม บอกว่า เพราะเขาเป็นคนชอบอิสระ ท่องเที่ยวแบบไปเรื่อยๆ ชอบตรงไหนอยากอยู่นานๆ ก็อยู่ ค่ำไหนนอนนั่น ไม่ชอบเดินทางแบบรีบ เร่ง ลวก แข่งกับเวลา
บนรถมอเตอร์โฮมคันนี้ถูกออกแบบให้มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และยังเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นการสร้างความแตกต่างที่เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะอยากสร้างสีสันใหม่ๆ ให้แก่ชีวิต แทนที่ตื่นเช้ามาจะนั่งทำงานในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ทุกวัน ได้เปลี่ยนออกมาพบเห็นอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เปิดโลกทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในประเทศเพื่อนบ้าน
การเดินทางครั้งนี้ยังมาพร้อมกับโปรเจคถ่ายทำสารคดี “เบิกฟ้าท้าโลก” ความยาว 20 ตอน ร่วมกับ พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยงานนี้วิกรมขอทำหน้าที่พาเที่ยวผ่านจอด้วยตัวเอง
นอกจากท่องธรรมชาติ สัมผัสวัฒนธรรม อาหารการกิน สนทนากับผู้คนที่น่าสนใจ วิกรมยังอยากพาไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ด้านเศรษฐกิจซึ่งประเทศเพื่อนบ้านในแถบนี้มีศักยภาพหลายด้านที่น่าจับตา รับกับกระแสการค้าไร้พรมแดนที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้าจากการเปิดเขตการค้าเสรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2558
เบื้องหลังขบวนคาราวานครั้งนี้ วิกรมควักกระเป๋าใช้เงินไปร่วม 30 ล้าน โดยมีน้องชาย วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ซึ่งจบมาทางด้านวิศวะ ดูแลร่วมกับช่างชาวญี่ปุ่นออกแบบรถมอเตอร์โฮมขึ้นเป็นพิเศษทั้ง 3 คัน หากสั่งนำเข้ารถมอเตอร์โฮมไซส์ใหญ่ขนาดนี้ทั้งคันจากต่างประเทศ วิวัฒน์เล่าว่าราคาจะสูงมากคันละถึง 24 ล้านบาท ขนาดยังไม่รวมภาษี
งานนี้เลยลงทุนสั่งต่อเองในเมืองไทยประหยัดกว่าเยอะ โจทย์ของวิกรมคืออยากได้บ้านติดล้อที่มีสมรรถนะสูง เดินทางได้สมบุกสมบัน ไต่ขึ้นเขาไปถึงหลังคาโลกอย่างทิเบตได้ ใช้เป็นที่ทำงานและที่กินอยู่หลับนอน ระหว่างทริปสำรวจโลกตลอด 5 ปี
ในที่สุดเลยมาลงตัวที่การดัดแปลงรถบรรทุกฮีโน่ 10 ล้อ กับ 6 ล้อ เครื่องยนต์ 212 แรงม้าที่ผลิตในเมืองไทย โดยมีบริษัท พานทอง บอดี้บัส ที่ จ.ชลบุรี ออกแบบทำตัวถังภายนอก ส่วนงานออกแบบตกแต่งภายในมีบริษัทมอเตอร์โฮมของญี่ปุ่นที่ตั้งโรงงานอยู่ในเมืองไทยออกแบบและติดตั้งให้ เบ็ดเสร็จแล้วสนนราคาจึงเหลืออยู่ที่ประมาณคันละ 7 ล้านบาท
มอเตอร์โฮมของวิกรม ไม่ใช่รถบ้านแบบมหาเศรษฐีที่เน้นความโอ่อ่าหรูหรา แต่เน้นที่ประโยชน์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ตอบโจทย์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะสำหรับนั่งเขียนหนังสือ หลังคาที่เปิดขึ้นไปเป็นเต็นท์นอนดูดาวยามค่ำคืน ห้องครัวพร้อมตู้แช่และอุปกรณ์ทำครัวครบชุดสามารถทำกับข้าวเลี้ยงคนได้ 20-30 คน ในห้องครัวตุนเสบียงอาหารแห้งไว้เพียบ อย่างเช่น ปลาสลิดแห้งแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
มอเตอร์โฮมคันแรกเป็น “รถขบวน” ออกแบบให้เป็นออฟฟิศและห้องนอนของวิกรม มีเก้าอี้โซฟาและโต๊ะทำงานที่กดเปิดจอคอมพิวเตอร์ออกมาได้ มีโซฟาปรับพับขยายเป็นที่นั่งประชุมเล็กๆ หรือไว้ต้อนรับแขก 4-5 คน มีห้องนอนขนาดเตียงคู่ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือและโถส้วมซึ่งเป็นระบบเผาไหม้ของเสีย เวลาขับถ่ายแล้วจะเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแห้งๆ ไม่มีกลิ่นรบกวน
คันที่สอง ออกแบบให้เป็น “รถออฟฟิศ” สำหรับใช้เป็นทั้งที่ทำงานของพนักงาน ห้องประชุมใหญ่ 8-10 ที่นั่ง ห้องครัว เครื่องซักผ้า ห้องนอนพ่อครัวและทีมงานด้านไอที
คันที่สาม เป็นรถสำหรับพนักงานมีห้องนอน ห้องทำงาน ห้องปฐมพยาบาล มอเตอร์โฮมแต่ละคันบรรจุน้ำได้ 500 ลิตร ส่วนแหล่งพลังงานมีทั้งไดชาร์จอัดไฟเข้าแบตเตอรี่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก และเสียบใช้ไฟจากภายนอก ทั้ง 3 คันยังติดสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย แนะนำวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยว สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของเมืองไทย นอกจากนี้ใต้ท้องรถยังขนมอเตอร์ไซค์วิบากไปด้วยอีก 2 คันและรถจักรยานไว้ใช้งานในเส้นทางที่รถใหญ่วิ่งเข้าไปไม่ได้
5 ปีจากนี้ วิกรมวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางไกลด้วยคาราวานมอเตอร์โฮมทุกปี หลังจากคาราวานลุ่มแม่น้ำโขง ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้และพม่าในปีแรกแล้ว ทริปในปีต่อๆ ไป วางแผนบุกไปถึงมองโกเลีย ทิเบต และไซบีเรีย ก่อนจะปิดท้ายด้วยทริปการเดินทางในปีที่ 5 ซึ่งตั้งใจอยากจะไปถึงแคชเมียร์ อินเดีย ทริปนี้จะเป็นทริปที่ทรหดที่สุด คาดว่าใช้เวลาเดินทางถึง 8 เดือน ระยะทางไกลถึง 3-4 หมื่นกิโลเมตร เบ็ดเสร็จรวมระยะทางทั้งหมด 5 ปีนี้น่าจะถึงแสนกิโลเมตร
เป็นความฝันและการผจญภัยครั้งใหม่ที่ผีเสื้ออย่าง“วิกรม” กำลังขยับปีกโบยบินไปให้ถึง -----------------------------------------------
จากตัวดักแด้ที่เคยซุกตัวอยู่ในถ้ำ “กุฎาคาร” ที่เขาใหญ่ กำลังขยับปีกโผผินเป็นผีเสื้อบินสู่โลกกว้างด้วยวิมานติดล้อ “มอเตอร์โฮม” คันใหญ่ เริ่มต้นภารกิจคาราวานท่องโลก พิชิตการเดินทางแสนกิโลเมตรภายในเวลา 5 ปี
วิกรม เริ่มต้นประเดิมเส้นทางแรกด้วย “คาราวานท่องลุ่มน้ำโขง” โดยขบวนคาราวานประกอบด้วยรถมอเตอร์โฮม 3 คัน รถกระบะโตโยต้าวีโก้นำและปิดขบวน 2 คัน และทีมงานอีก 15 ชีวิต เพิ่งจะล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติในเมืองไทย และเตรียมข้ามต่อไปยังลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ มณฑลกวางสีและยูนนาน ต่อด้วยพม่า และวกกลับเข้าไทย สิ้นสุดการเดินทางที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ทริปนี้วิกรมจะใช้เวลาท่องโลกด้วยมอเตอร์โฮมนาน 3 เดือนเต็ม
เหตุผลที่เดินทางด้วย “รถบ้าน” หรือ “มอเตอร์โฮม” วิกรม บอกว่า เพราะเขาเป็นคนชอบอิสระ ท่องเที่ยวแบบไปเรื่อยๆ ชอบตรงไหนอยากอยู่นานๆ ก็อยู่ ค่ำไหนนอนนั่น ไม่ชอบเดินทางแบบรีบ เร่ง ลวก แข่งกับเวลา
บนรถมอเตอร์โฮมคันนี้ถูกออกแบบให้มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และยังเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นการสร้างความแตกต่างที่เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะอยากสร้างสีสันใหม่ๆ ให้แก่ชีวิต แทนที่ตื่นเช้ามาจะนั่งทำงานในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ทุกวัน ได้เปลี่ยนออกมาพบเห็นอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เปิดโลกทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในประเทศเพื่อนบ้าน
การเดินทางครั้งนี้ยังมาพร้อมกับโปรเจคถ่ายทำสารคดี “เบิกฟ้าท้าโลก” ความยาว 20 ตอน ร่วมกับ พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยงานนี้วิกรมขอทำหน้าที่พาเที่ยวผ่านจอด้วยตัวเอง
นอกจากท่องธรรมชาติ สัมผัสวัฒนธรรม อาหารการกิน สนทนากับผู้คนที่น่าสนใจ วิกรมยังอยากพาไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ด้านเศรษฐกิจซึ่งประเทศเพื่อนบ้านในแถบนี้มีศักยภาพหลายด้านที่น่าจับตา รับกับกระแสการค้าไร้พรมแดนที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้าจากการเปิดเขตการค้าเสรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2558
เบื้องหลังขบวนคาราวานครั้งนี้ วิกรมควักกระเป๋าใช้เงินไปร่วม 30 ล้าน โดยมีน้องชาย วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ซึ่งจบมาทางด้านวิศวะ ดูแลร่วมกับช่างชาวญี่ปุ่นออกแบบรถมอเตอร์โฮมขึ้นเป็นพิเศษทั้ง 3 คัน หากสั่งนำเข้ารถมอเตอร์โฮมไซส์ใหญ่ขนาดนี้ทั้งคันจากต่างประเทศ วิวัฒน์เล่าว่าราคาจะสูงมากคันละถึง 24 ล้านบาท ขนาดยังไม่รวมภาษี
งานนี้เลยลงทุนสั่งต่อเองในเมืองไทยประหยัดกว่าเยอะ โจทย์ของวิกรมคืออยากได้บ้านติดล้อที่มีสมรรถนะสูง เดินทางได้สมบุกสมบัน ไต่ขึ้นเขาไปถึงหลังคาโลกอย่างทิเบตได้ ใช้เป็นที่ทำงานและที่กินอยู่หลับนอน ระหว่างทริปสำรวจโลกตลอด 5 ปี
ในที่สุดเลยมาลงตัวที่การดัดแปลงรถบรรทุกฮีโน่ 10 ล้อ กับ 6 ล้อ เครื่องยนต์ 212 แรงม้าที่ผลิตในเมืองไทย โดยมีบริษัท พานทอง บอดี้บัส ที่ จ.ชลบุรี ออกแบบทำตัวถังภายนอก ส่วนงานออกแบบตกแต่งภายในมีบริษัทมอเตอร์โฮมของญี่ปุ่นที่ตั้งโรงงานอยู่ในเมืองไทยออกแบบและติดตั้งให้ เบ็ดเสร็จแล้วสนนราคาจึงเหลืออยู่ที่ประมาณคันละ 7 ล้านบาท
มอเตอร์โฮมของวิกรม ไม่ใช่รถบ้านแบบมหาเศรษฐีที่เน้นความโอ่อ่าหรูหรา แต่เน้นที่ประโยชน์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ตอบโจทย์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะสำหรับนั่งเขียนหนังสือ หลังคาที่เปิดขึ้นไปเป็นเต็นท์นอนดูดาวยามค่ำคืน ห้องครัวพร้อมตู้แช่และอุปกรณ์ทำครัวครบชุดสามารถทำกับข้าวเลี้ยงคนได้ 20-30 คน ในห้องครัวตุนเสบียงอาหารแห้งไว้เพียบ อย่างเช่น ปลาสลิดแห้งแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
มอเตอร์โฮมคันแรกเป็น “รถขบวน” ออกแบบให้เป็นออฟฟิศและห้องนอนของวิกรม มีเก้าอี้โซฟาและโต๊ะทำงานที่กดเปิดจอคอมพิวเตอร์ออกมาได้ มีโซฟาปรับพับขยายเป็นที่นั่งประชุมเล็กๆ หรือไว้ต้อนรับแขก 4-5 คน มีห้องนอนขนาดเตียงคู่ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือและโถส้วมซึ่งเป็นระบบเผาไหม้ของเสีย เวลาขับถ่ายแล้วจะเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแห้งๆ ไม่มีกลิ่นรบกวน
คันที่สอง ออกแบบให้เป็น “รถออฟฟิศ” สำหรับใช้เป็นทั้งที่ทำงานของพนักงาน ห้องประชุมใหญ่ 8-10 ที่นั่ง ห้องครัว เครื่องซักผ้า ห้องนอนพ่อครัวและทีมงานด้านไอที
คันที่สาม เป็นรถสำหรับพนักงานมีห้องนอน ห้องทำงาน ห้องปฐมพยาบาล มอเตอร์โฮมแต่ละคันบรรจุน้ำได้ 500 ลิตร ส่วนแหล่งพลังงานมีทั้งไดชาร์จอัดไฟเข้าแบตเตอรี่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก และเสียบใช้ไฟจากภายนอก ทั้ง 3 คันยังติดสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย แนะนำวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยว สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของเมืองไทย นอกจากนี้ใต้ท้องรถยังขนมอเตอร์ไซค์วิบากไปด้วยอีก 2 คันและรถจักรยานไว้ใช้งานในเส้นทางที่รถใหญ่วิ่งเข้าไปไม่ได้
5 ปีจากนี้ วิกรมวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางไกลด้วยคาราวานมอเตอร์โฮมทุกปี หลังจากคาราวานลุ่มแม่น้ำโขง ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้และพม่าในปีแรกแล้ว ทริปในปีต่อๆ ไป วางแผนบุกไปถึงมองโกเลีย ทิเบต และไซบีเรีย ก่อนจะปิดท้ายด้วยทริปการเดินทางในปีที่ 5 ซึ่งตั้งใจอยากจะไปถึงแคชเมียร์ อินเดีย ทริปนี้จะเป็นทริปที่ทรหดที่สุด คาดว่าใช้เวลาเดินทางถึง 8 เดือน ระยะทางไกลถึง 3-4 หมื่นกิโลเมตร เบ็ดเสร็จรวมระยะทางทั้งหมด 5 ปีนี้น่าจะถึงแสนกิโลเมตร
เป็นความฝันและการผจญภัยครั้งใหม่ที่ผีเสื้ออย่าง“วิกรม” กำลังขยับปีกโบยบินไปให้ถึง -----------------------------------------------
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก