วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ขอต้อนรับสู่...โลกที่ไม่มีจริง

โดย: ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง

:
" ชีวิตแรกยังจะเอาไม่รอด...แต่จะไปมีชีวิตที่สอง !" คำปรามาสค่อนขอดทำนองนี้ตามกระทู้ในเน็ต มีมาให้สองหนุ่ม ได้ยินเป็นประจำ ...
   'ชีวิตที่สอง' หรือ Second Life เรื่องราว 'ชุมชนคนไทย' ในโลกเสมือนจริง นำพาให้เราได้มานั่งพูดคุยกับ ไช้ และต้น ...2 คนรุ่นใหม่ที่สนุกกับการ 'ขุดทอง' บนโลกเสมือนจริง หรือที่เรียกกันว่า Virtual World

  ทั้งคู่ 'ก้าวเดิน' บนความเชื่อที่ว่า โลกเสมือน จะกลายเป็นโลกของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เป็นสังคมออนไลน์ ที่มาพร้อมยุค 'เว็บ 3.0' ซึ่งอินเทอร์เน็ตจะกลายมาเป็นแบบ 3 มิติ
  คนหนึ่งเอาจริงเอาจัง ถึงขั้นเบนเข็มชีวิตจากสถาปัตยกรรมบัณฑิต รั้วบางมด หันมาเรียนต่อปริญญาโท และมุ่งมั่นจะเรียนต่อถึงระดับดอกเตอร์ หวังเอาดีเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง การเรียนการสอนระบบ E-Learning ผ่านโลกเสมือนจริง
  ส่วนอีกคน หลังจากบังเอิญอ่านเจอข่าวชิ้นเล็กๆ เกี่ยวกับ SecondLife ที่กลายมาเป็นระเบิดลูกใหญ่ สร้างแรงบันดาลใจให้ 'ไช้' ลงทุนปลุกปั้นเว็บไซต์ ThaiSecondLife.net มาได้ปีกว่าๆ สร้างจุดนัดพบความรู้และสังคมออนไลน์ของคนไทย ที่เข้าไปท่องโลกเสมือนจริงใน SecondLife.com  
เมื่อเร็วๆ นี้ SecondLife เพิ่งฉลองครบรอบ 5 ปีไป ด้วยยอดสมาชิกทะลุ 14 ล้านคนทั่วโลก
ว่ากันว่า ในปี 2551  โดยเฉลี่ยทุกๆ วัน มีการซื้อขายใน 'โลกที่ไม่มีจริง' แห่งนี้ ด้วยมูลค่าเงินสะพัดสูงถึงวันละ 1.5-1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราวๆ  50-60 ล้านบาท
เหมือนเดินเข้าไปดูหนัง
"จริงๆ อยากให้มองว่า  SecondLife เป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์ในโลกออนไลน์ เหมือนๆ กับที่เราเปิด Blog เล่น MSN เล่น Hi5 หรือ YouTube แต่  SecondLife ต่อยอดพัฒนาสร้างสรรค์อะไรได้เยอะมาก " ไช้ เจ้าของชุมชนออนไลน์ ThaiSecondLife.net ว่าอย่างนั้น
 ชีวิตของไช้ วนเวียนอยู่ในวงการ 'หาเงิน' บนเน็ตมาหลายปี ผ่านมาโชกโชน ทั้งทำงานอยู่ร้านขายซอฟต์แวร์ที่ห้างพันทิพ รับจ้างทำเว็บดีไซน์  เปิดเว็บไซต์ขายสินค้า และประมูลของขายในอีเบย์ ก่อนจะโดนพิษสงครามตัดราคากันเลือดสาด ต้องหวนกลับไปทำงานประจำอยู่ 2 ปีเศษ กว่าจะล้างหนี้หมด 
   ปีนี้ ไช้ อายุ 30 ปี เขาหวนกลับมาเป็นนายตัวเองอีกครั้ง แต่ละวัน เขาจะซุกตัวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนอพาร์ทเมนท์กับคอมพิวเตอร์  ตั้งแต่ตื่นเช้า 11 โมง ยันเข้านอนตอนตีสี่
ประสบการณ์โชกโชนบนโลกออนไลน์ ทำให้ไช้ ซึมซับเรื่องมาร์เก็ตติ้ง และการหาข้อมูลผ่านเน็ต ที่เจ้าตัวบอกว่า “ต้องเป็นทั้งนักสำรวจและนักดมกลิ่น”  จนกระทั่งสะดุดเจอข่าวห้าง Sears ของสหรัฐอเมริกา จับมือกับไอบีเอ็ม เปิดห้างสรรพสินค้า 3 มิติบนโลกเสมือนจริงในเว็บ SecondLife
  Romeo Arashi คือชื่ออวาตาร์ของไช้ ใน SecondLife.com ที่เริ่มจากการเข้าไปเที่ยวเล่น ดูโน่นนี่ และหาของฟรีในโลกใบดังกล่าว
  จนตอนนี้ เริ่มต่อยอดมา 'สร้างของ' ลงทุนเช่าที่ขายเสื้อผ้าและของแต่งตัว สำหรับบรรดาอวาตาร์บนเกาะใน SecondLife
เปิดร้านมาได้ไม่ถึงเดือน แต่ไช้ประเมินฟีดแบ็คที่เข้ามาว่า ถ้ายังคงยอดขายอยู่ในระดับนี้ เขาน่าจะทำรายได้ประเดิมเดือนแรก ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท
 เพราะอะไร คนถึงยอมจ่ายเงินเพื่อโลกที่ไม่มีอยู่จริง ได้ทุกวัน ?
 “ความสุขครับ... เหมือนเดินเข้าไปดูหนัง ออกมาไม่มีอะไรติดมือ นอกจากประสบการณ์ ความทรงจำ ความสนุกสนาน" ต้น ที่นั่งอยู่ด้วย เสริมว่า  SecondLife ก็คงเหมือนๆกัน ยิ่งนิสัยฝรั่งชอบอวด ชอบแต่งตัวโชว์กัน ซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ พาเพื่อนมาเที่ยวบ้านบนเกาะใน SecondLife
 ไช้ ยกตัวอย่างว่า ตอนเข้าไปใน SecondLife  ใหม่ๆ เคยคิดเหมือนกันว่า ทำไมต้องเสียเงินซื้อชุดใหม่มาใส่ด้วย
"รู้ไหม ตอนนี้ ผมกลับต้องเสียเงินซื้อชุดไปแล้ว 5 พันกว่าลินเดน ถ้าเข้าไปนานๆ มันจะเริ่มรู้สึกมีส่วนร่วม เหมือนอยู่ในสังคม ก็อยากจะแต่งตัว อยากจะดูดี อยากจะมีโน่นนี่ เหมือนกับที่เราอยู่ในโลกปกติ"
 ต้น มองว่า ของบางอย่าง จับต้องไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเล่นกับอารมณ์ และความต้องการของคนเมื่อไหร่..มันก็มี 'มูลค่า' เป็นเงินเป็นทองเมื่อนั้น 
 “อีกอย่าง คือ ใน SecondLife มันมีเรื่องของการทำรายได้ เรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ทุกอย่างมันยิ่งสมจริงขึ้น ยกตัวอย่าง ซื้อที่ดินในนั้น ก็สามารถลงทุนขายต่อเก็งกำไรได้  ในนั้น ของทุกอย่างมันถูกทำให้มีค่า” ไช้ ช่วยเสริม
SecondLife มือใหม่
วันนี้ ชุมชนออนไลน์ ThaiSecondLife.net  เพิ่งแตกหน่ออ่อนๆ เป็นกลุ่มคนไทยเล็กๆ ที่มาแลกเปลี่ยนข้อมูล พูดคุยกัน ประมาณ 1,300 คน (จำนวนสมาชิก) ส่วนหนึ่งเพราะการใช้งานใน SecondLife เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจยากสำหรับมือใหม่ ไหนจะติดขัดเรื่องภาษาอีก
 ในบรรดากลุ่มคนไทยที่เข้าไปท่องโลก SecondLife ที่รู้จักพูดคุยกัน ไช้ ยกให้ ต้นเป็นหนึ่งใน 'ไอดอล' ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกในเว็บบอร์ด ThaiSecondLife.net หลายต่อหลายคน ว่าในโลกเสมือนจริง...ทำเงินได้จริงๆ
 ต้น เริ่มทำความรู้จักกับ SecondLife ครั้งแรกตอนเรียนอยู่ตอนเรียนอยู่ปี 3 เพราะอาจารย์แนะนำ
 ก่อนหน้านี้ ต้นเคยไปฝึกงานตามบริษัท แต่อึดอัดที่ต้องทำงานแบบรับคำสั่ง จนเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ทางของตัวเอง แต่พอเข้ามาใน SecondLife เหมือนกับได้ปลดปล่อยไอเดีย พลังความคิดสร้างสรรค์
 “เต็มที่เลยครับ..ผมว่า ความรู้การออกแบบอะไรที่เราเรียนมา มันสามารถเอามาใช้ในนี้ได้หมดเลย”
 จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ แค่เข้ามาเที่ยวเล่น ทำให้ต้น หรือเจ้าของร่างอวาตาร์ในชื่อ Hydrogen ใน SecondLife  ได้เจอเพื่อนชาวอเมริกัน ชักชวนให้สร้างของมาขาย แถมยังใจดีแบ่งที่ดินให้เปิดหน้าร้าน
 “ ฟีดแบ็คเวิร์คมาก ! เริ่มจากสร้างตัวการ์ตูนขาย 2-3 ตัว เรียนเสร็จ กลับบ้านมาก็ทำเล่นๆ สนุกๆ  ตัวหนึ่งราคาประมาณ 200 บาท แต่สร้างขึ้นมา 1 ตัวมันสามารถก๊อปปี้ขายต่อได้เรื่อยๆ และไม่มีวันหมดอายุ  ตอนนั้น เดือนแรกได้มาประมาณสองหมื่นห้า ก็ตกใจนะ เพราะไม่ได้หวังว่าจะได้เงิน”
  ใครจะคิดว่า จากไอเดียแค่ 'นึกสนุก' ในโลกเสมือนจริง วันหนึ่งจะทำให้มีทีมงานของซีรีย์สืบสวนสอบสวนเรื่องดัง CSI ที่เข้ามาถ่ายทำภาคพิเศษใน SecondLife ติดต่อว่าจ้างให้มาช่วยสร้างตัวประกอบอวาตาร์ ในเรื่อง 
 “สำหรับผม ที่ได้เต็มๆ เลย คือ โอกาส ในชีวิตจริง ผมคงไม่มีโอกาสมาเจอกับคนเก่งๆ ที่อยู่ในนี้ ได้มีโอกาสรู้จักคนสร้างเกมระดับโลก คนทำเกม Final Fantasy ก็เพราะเข้ามาใน SecondLife ”
 เริ่มต้นจากการเข้าไปแบบมือเปล่า ตอนนี้บัณฑิตหนุ่มวัย 24 ปี เป็นเจ้าของเกาะ Sense เปิดร้านขายของอยู่ใน SecondLife  น้ำพักน้ำแรงที่หาได้ในโลกเสมือนจริง ทำให้ต้น มีเงินเก็บ พอสำหรับแผนเรียนต่อด้านโลกเสมือนจริง ถึงระดับปริญญาเอก และอาจจะซื้อรถได้ 1 คัน กับคอนโดฯ เล็กๆ อีก 1 ห้อง
 “ ส่วนหนึ่งฟลุ้คด้วย และบังเอิญที่งานของผมขายได้ เพราะสร้างก่อนคนอื่น อย่างที่เขาพูดกันว่า นกที่ตื่นก่อน จะได้หนอนที่ใหญ่กว่าเสมอ”
 ตอนนี้ ต้น หยุดพักการพัฒนาใน SecondLife ไปชั่วคราว เพราะกำลังเรียนต่อปริญญาโทที่เอแบค และร่วมอยู่ในทีมงานของศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานผู้บริหารวิทยาลัยการศึกษาทางไกลอินเทอร์เน็ต ของเอแบค ซึ่งมีแผนพัฒนาสถาบันการศึกษาในโลกเสมือนจริง อย่างจริงจัง...อาจารย์ศรีศักดิ์ เป็นอีกหนึ่งคนไทย ที่เข้าไปลงทุนเป็นเจ้าของเกาะ Charming Island พื้นที่ 40 ไร่ ใน SecondLife ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา
  “ ผมมองว่า เรื่องของโลกเสมือนจริง หรือ Virtual World และอินเทอร์เน็ต 3 มิติ กำลังเป็นเทรนด์ที่จะได้เห็นแน่ๆ ในอนาคต และผมจะไม่หยุดแค่ SecondLife เพราะวันข้างหน้าอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน แค่ไอเดีย หรือฝีมืออย่างเดียว อาจจะไม่พอแล้ว ต้องมีทั้งทักษะกราฟฟิก การทำงาน 3 มิติระดับเทพ ยิ่งถ้าไม่รู้เรื่องการตลาด จะสู้ยากในอนาคต  ผมเลยหยุดเรื่องการพัฒนาไว้ก่อน เพื่อมาเรียนต่อ หาความรู้เพิ่มเติม เอากลับไปทำแบรนดิ้งใหม่ พัฒนาการออกแบบ ทำการตลาดให้ดีขึ้นอีก และโอกาสที่ผมเห็นชัดๆ คือ การทำเรื่อง E-learning ผ่านโลกเสมือนจริง ซึ่งเมืองไทย ยังไม่มีคนทำ“
 ไม่มีใครการันตีได้ว่า SecondLife จะไม่ถึงยุคเสื่อม หรือฟองสบู่ใน 'โลกที่ไม่มีอยู่จริง' จะแตกโพละเมื่อไหร่  แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่และจะยิ่งมีบทบาทเข้าใกล้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ คือ แพลทฟอร์มของโลกเสมือนจริง ที่กำลังจะถูกพัฒนา และต่อยอดการใช้งาน ในโลกอินเทอร์เน็ตยุค 3 มิติ...ต้นและไช้มองอย่างนั้น 
 “ผมมองว่า มีเกิดก็มีดับ แต่ตอนนี้ SecondLife ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโมเดลโลกเสมือนจริง หรือ Virtual World วันนี้ การใช้งานอาจจะยังซับซ้อนบ้าง แต่มันก็เริ่มทำให้เห็นว่า เราสามารถต่อยอดและทำอะไรได้เยอะแยะเต็มไปหมด“
 เหมือนกับที่วันนี้ เราเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของหลายๆ ธุรกิจ และสินค้า ที่เข้ามาลงทุนปักธงในโลกเสมือนจริง เริ่มตั้งแต่ยักษ์ไอบีเอ็ม ที่สนใจสร้างแพลทฟอร์มการใช้งานรองรับลูกค้า และลงทุนเป็นซื้อเกาะไว้ถึง 24 เกาะใน SecondLife
 ท่ามกลางการแตกตัวของโลกซ้อนอีกใบในโลกชีวิตจริง ที่ทยอยสร้างขึ้นมาสารพัดรูปแบบ นอกจากเว็บไซต์ SecondLife .com ยังมีเว็บไซต์ There.com ของโคคา โคล่า รวมไปถึง 'กูเกิล' ที่โดดเข้ามาชิมลางเปิดตัว Google Lively (www.lively.com) ฯลฯ 
.............................................................................
'โลกแห่งความเพ้อฝัน' กับ 'โลกแห่งจินตนาการ' ต่างกันแค่เส้นแบ่งบางๆ ว่าด้วยเรื่องทัศนคติและความเชื่อ บางคนอาจกำลังตั้งคำถามว่า SecondLife เป็นแค่ 'ของเล่นออนไลน์' รูปแบบใหม่ ที่จะหมดกระแสลงเมื่อไหร่ 
  แต่สำหรับ ต้น และไช้  พวกเขา เลือกที่จะใช้ SecondLife ให้เป็นที่วิ่งเล่นของความคิดสร้างสรรค์  และใช้ช่องทางนี้ มาเพิ่มโอกาสชีวิตแบบดับเบิ้ล
-----------------------------
รู้จัก 'ชีวิตที่สอง'
  Second Life  เป็นโปรแกรมและเว็บไซต์ ที่จำลองโลกเสมือนจริง (Virtual World) ขึ้นบนอินเทอร์เน็ต และนับเป็นต้นแบบสังคมออนไลน์ 3 มิติ รายแรกๆ ของโลก ถูกพัฒนาขึ้นโดย Linden Lab บริษัทอินเทอร์เน็ตในสหรัฐอเมริกา เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2003 โดยผู้เล่นสามารถเข้ามาลงทะเบียนสมัครเล่นผ่านเว็บไซต์ http://www.secondlife.com
 เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของ Second Life ผู้เล่นแต่ละคน จะสามารถสร้าง 'ตัวตน' ของตัวเอง ที่เรียกกันว่า อวาตาร์ (Avatar) เข้าไปเดินท่อง (หรืออยากจะบินก็ได้) ใช้ชีวิตอยู่ในนั้น ฟังดูเผินๆ คล้ายกับเกมกราฟฟิก 3 มิติยอดฮิตที่ชื่อ The Sim
  แต่ที่นี่ไม่มีภารกิจ หรือโจทย์ บอกให้คุณทำอะไรทั้งสิ้น จึงแตกต่าง และมีอะไรมากกว่าเกม จากชื่อก็บอกแล้วว่า เป็น 'ชีวิตที่สอง' สามารถเลือกได้อิสระว่า คุณอยากจะทำอะไร 
 อยากจะช็อปปิ้ง ก็เชิญไปร้านขายของ หรือห้างสรรพสินค้าในนั้น อยากจะเล่นเกมก็บินไปหามาเล่นได้ อยากจะไปแดนซ์ หรือฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต สร้างบ้าน เปิดออฟฟิศ ทำงานหาเงิน  เข้าฟังเลคเชอร์ในห้องเรียนมหาวิทยาลัย เป็นเจ้าของเกาะส่วนตัว ฯลฯ  
ที่นี่ทุกคนได้ 'ออกแบบ' ชีวิตที่สองของตัวเอง ไม่ว่าอยากจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ไม่มีการจำกัดเพศและรูปร่างหน้าตา ...ทุกที่ที่คุณไป จะได้พบกับอวาตาร์ หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ หนุ่มหล่อ, นางแบบสาวสวย, ตัวการ์ตูน, หุ่นยนต์,  สัตว์ประหลาด
   ทุกสิ่งทุกอย่างใน SecondLife ไม่ว่าจะเป็น บ้าน เกาะ ร้านค้า เสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้า กระทั่งมดตัวเล็กๆ ก็ล้วนถูกสร้างขึ้นเองจากคนเล่นทั้งสิ้น
และที่ล้ำไปกว่านั้น ภายใน SecondLife  มีทั้งสังคมและระบบเศรษฐกิจที่ไม่ต่างจากชีวิตจริง ที่นั่นจะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยน โดยใช้ 'เงินจริง' จาก 'โลกจริง' มาแปลงเป็นสกุลเงินที่เรียกว่า ลินเดน (Linden) โดยเฉลี่ยประมาณ 265 ลินเดน จะเท่ากับ 1 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ โลกเคยฮือฮาจากตำนานตัวอย่างความสำเร็จ สาวหมวย ชื่อ Anshe Chung ที่ทำเงินได้สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทำธุรกิจอสังหาฯ บนโลกเสมือนจริงผ่าน เว็บ SecondLife.com จนได้ขึ้นปกนิตยสาร Business Week มาแล้ว ส่วนธุรกิจของไทยเอง ที่รุกเข้าไปสร้างเกาะใน SecondLife เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์และไอศกรีมวอลล์ เริ่มทดลองเข้าไปสร้างเกาะ SCB และเกาะ Cornetto island กันแล้ว

 ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2008/09/22/news_296341.php

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก