คนร้อยปี ประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต
โดย ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง
คาดกันว่าประชากรไทยอายุเกิน 100 ปีขณะนี้มีอยู่ราวๆ 1,400 คน หญิง 900 ชาย 500 ความลับอายุยืนของไม้ไม่ยอมใกล้ฝั่งกลุ่มนี้คืออะไร
อายุ วัณโณ สุขัง พลัง ขอให้อายุมั่นขวัญยืน อายุยืนหมื่นปี..ไม่ว่ายุคไหนๆ การมีอายุยืนยาวยังคงเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ แต่หากชีวิตถูกลิขิตให้มีอายุยืนยาวถึง 100 ปีจริงๆ พรข้อนี้จะวิเศษอยู่อีกไหม?...มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีโอกาสตอบคำถามนี้
ในทำเนียบท่านผู้หญิงของไทย จะมีใครที่อายุยืนยาวและสดใสแข็งแรงในวัย 104 ปีได้เท่ากับ ท่านผู้หญิงยสวดี อัมพรไพศาล ปูชนียบุคคลแวดวงการศึกษาของไทย ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรไพศาลย่านติวานนท์
จวบจนถึงวันนี้ชีวิตของท่านผู้หญิงยังไม่เคยรู้จักกับคำว่า “เกษียณ” ไม่เพียงแต่มีทักษะสมองและความจำอันดีเลิศ ทุกวันนี้ท่านผู้หญิงยังออกจากบ้านมาทำงานที่โรงเรียนเป็นประจำ รวมถึงการให้โอวาทนักเรียนในตอนเช้า นั่งตรวจข้อสอบภาษาอังกฤษของคุณครูที่โรงเรียน
วันดีคืนดีท่านผู้หญิงจะส่งเสียงตามสายทดสอบทักษะการฟังการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนด้วยตัวเองว่าเด็กๆ ทำข้อสอบได้ไหม เพื่อเทสต์ว่าคุณครูออกสำเนียงสอนในห้องได้ชัดถูกต้องมากน้อยเพียงใด ปัจจุบันตำราหนังสือภาษาอังกฤษที่ใช้ในโรงเรียนยังเป็นตำราที่ท่านผู้หญิงเขียนขึ้นเอง
“ดิฉันเกิดในปีพ.ศ.2450 วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ดิฉันจะมีอายุครบ 104 ปี นับแล้วก็เท่ากับผ่านมา 5 รัชกาล คือเกิดตอนปลายรัชกาลที่ 5 แต่ตอนรัชกาลที่ 5 สวรรคตนั้นยังเด็กมากอายุ 3 ขวบ จำอะไรยังไม่ได้ ปัจจุบันเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันน่าจะไม่มีแล้ว มีท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา แต่อายุอ่อนกว่าดิฉัน 3 ปี แต่ก็ถือว่าอยู่ในรุ่นไล่ๆกัน”
คำถามถึงเคล็ดลับดูแลตัวอย่างอย่างไรถึงมีอายุยืนยาว เป็นคำถามที่หลายคนมักจะถามไถ่ท่านผู้หญิง ซึ่งผู้อาวุโสเผยเคล็ดลับของการมีอายุวัฒนะว่า เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการดูแลตัวเองของคนยุคก่อนๆ ซึ่งจะนิยมรับประทานแต่ผักกับน้ำพริก และผลไม้ เน้นกินปลา ไม่นิยมกินเนื้อสัตว์ ทุกวันนี้ไม่ได้ควบคุมอาหารการกินเป็นพิเศษ แต่ปกติอาหารส่วนใหญ่ที่จะรับประทานจะไม่ค่อยมีน้ำมันอยู่แล้ว
เล่าถึงตอนนี้หลานสาวท่านผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เสริมว่า ทุกวันนี้ฟันของคุณย่ายังเป็นฟันแท้เกือบหมด จะไม่รับประทานแคลเซียมแบบเม็ด หรืออาหารเสริม แต่จะเน้นรับประทานแคลเซียมโดยตรงที่ได้จากอาหาร เช่น กระดูกอ่อน ปลาตัวเล็กตัวน้อย เพิ่งจะมาช่วงสมัยหลังๆ ที่เพิ่งหันมาดื่มนมไอโซคาลซึ่งเป็นนมสำหรับใส่สายยางให้คนป่วยโดยดื่มทุกวัน วันละถ้วยตั้งแต่ตอนอายุได้ 90 แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นรับประทานอาหารให้ครบหมู่
นอกจากเคล็ดลับในเรื่องอาหารการกินแล้ว ข้อสำคัญที่ท่านผู้หญิงย้ำ คือ ไม่เครียด กินเป็นเวลา นอนเป็นเวลา
“ทุกวันดิฉันจะตื่นตอนตี 5 และเข้านอนประมาณ 2-3 ทุ่ม หลังจากดูข่าวพระราชสำนักจบก็จะเข้านอน ปกติทุกเช้าตื่นเช้า จะถีบจักรยานออกกำลังกายสัก40 รอบพอให้หัวเข่าได้ทำงาน ทุกวันนี้ดิฉันไม่ปวดหัวเข่าเลย แล้วก็จะมานั่งเก้าอี้นวดตัว แล้วแต่งตัวมาทำงานที่โรงเรียน สมัยก่อนจะเดินมาทำงานทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้นั่งรถกอล์ฟมา”
นอกจากเป็นคนบุคลิกคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง ไม่ชอบอยู่เฉย มีกิจกรรมทำได้ตลอดเวลามาตั้งแต่ยังสาวๆ ทุกเช้าท่านผู้หญิงจะบริหารสมองด้วยการเล่นครอสเวิร์ดในหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังทำบัญชีโรงเรียนเองโดยใช้ลูกคิด จะไม่ใช้เครื่องคิดเลขเลยเพราะถือว่าไม่ได้ใช้สมอง แต่ถ้าตัวเลขไม่เยอะก็จะใช้สมองคิดบวกเอาเดี๋ยวนั้น
ทุกวันจันทร์กับศุกร์ ท่านผู้หญิงจะมีนัดสังสรรค์เปิดวงไพ่ตอง ขาไพ่ที่เล่นด้วยกันก็อายุ 90 กว่าทั้งนั้น โดยกำหนดกติกาได้เสียครั้งละไม่เกิน 200 บาทเพื่อเป็นการฝึกสมอง นอกจากนี้ยังมีความสุขกับงานอดิเรกการปลูกป่าหลายร้อยไร่ ที่อ.ภูเรือ จ.เลย
ส่วนคำถามที่ว่า ท่านผู้หญิงมองการมีอายุยืนยาวอย่างไร และแท้จริงแล้วยอดปรารถนาของมนุษย์ที่อยากมีอายุยืนยาวนั้นเป็นพรอันประเสริฐจริงๆไหม ท่านผู้หญิงบอกว่าสำหรับตนเองแล้วการมีอายุยืนยาวถึงวันนี้ต้องถือว่าเป็นบุญ หากอายุยืนแล้วมีสุขภาพดีนั่นคือสิ่งที่ดี แต่หากสุขภาพไม่ดี ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องให้คนมาคอยดูแล ต่อให้อายุยืนยาวก็ไม่มีประโยชน์
“อย่างดิฉันถือว่าเป็นบุญ เพราะอยู่อย่างไม่เดือดร้อน ไม่เคยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องอายุเท่าไหร่ และไม่เคยคิดว่าจะมีอายุถึง 100 ปี ในวันที่อายุ 100 ปีก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่เราก็สบายดี ไม่ได้ทุกข์อะไร มีความสุข มีลูกหลาน มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ถึงไม่เคยรู้สึกเหงาหรือว้าเหว่อะไร ที่สำคัญคือมีงานให้ทำตลอดเวลา ก็เลยไม่เคยรู้สึกเบื่อ..บทเรียนชีวิตของดิฉันคือการทำงาน แล้วก็ทำบุญ คิดว่าที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุดแล้ว”
ท่านผู้หญิงบอกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะประสบอุบัติเหตุนั่งรถบัสไปเที่ยวแล้วรถเบรกกระแทกตอนถักนิตติ้ง จนบาดเจ็บมีปัญหาหลัง เดินเหินไม่สะดวกคล่องแคล่วเหมือนก่อน
"ดิฉันจะเป็นมนุษย์ที่สบายที่สุด ทรัพย์สินก็มี ชื่อเสียงก็มี มีอายุที่ยืนยาว แต่เรามาปลงตกว่า คนเราจะสบายหมดทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้"
ศูนย์ศตวรรษิกชน..ฐานข้อมูลคนร้อยปี
“ในเมืองไทยผมคิดว่าท่านผู้หญิงยสวดีน่าจะเป็นศตวรรษิกชนคนเดียวที่ยังไม่เกษียณ น้อยคนที่จะมีความจำดีเยี่ยม พูดคุยเล่าเรื่องได้อย่างท่าน ก่อนหน้านี้มีคนร้อยปีอีกท่านที่มีความพิเศษ คือ คุณยายอนงค์ องคสิงห อายุ 104 ปี ท่านยังพูดคุยได้กระฉับกระเฉง สีไวโอลินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ มืดๆ ยังลุกขึ้นมาชงอาหารเสริมกินเอง แต่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว”ศ.ดร.ปราโมทย์ ประสาทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเช่นนั้น
เมื่อปีที่แล้ว สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มนับหนึ่งเปิดตัว “ศูนย์ศตวรรษิกชน” อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุและศตวรรษิกชน หรือประชากรที่มีอายุร้อยปีขึ้นไปในประเทศไทย
ในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนและสัดส่วนผู้สูงอายุได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 2503 ประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอยู่เพียงร้อยละ 6 หรือประมาณ1 ล้านคนเท่านั้น แต่ในปี 2553 สัดส่วนผู้สูงอายุได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 12 หรือประมาณ 7.5 ล้านคน ขณะที่ค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนไทยโดยรวมก็ปรับสูงขึ้นเช่นกัน โดยผู้หญิงจะอายุขัยเฉลี่ย 76 ปี ขณะที่ผู้ชายอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 70 ปี
ในขณะที่สังคมไทยและสังคมโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว หนึ่งในกลุ่มประชากรที่น่าสนใจ คือ ผู้ที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป ปัจจุบัน หลายๆ ประเทศได้ให้ความสนใจกับคนร้อยปี หรือ Centenarian อย่างมาก เช่น ในสหรัฐอเมริกาประธานาธิบดีจะส่งสานส์อวยพรวันเกิดให้กับผู้ที่มีอายุครบร้อยปี ประเทศอังกฤษสมเด็จพระราชินีจะส่งสาส์นเพื่ออวยพรให้กับศตวรรษิกชนในวันเกิดครบร้อยปี และจะส่งคำอวยพรทุกปีหลังจากวันเกิดครบหนึ่งร้อยห้าปี ในประเทศญี่ปุ่นกำหนดให้วันที่ 15กันยายนของทุกๆ ปี เป็นวันหยุดเพื่อเป็นวันแสดงความเคารพแก่ผู้สูงอายุ ในประเทศสวีเดนจะมีประเพณีการร้องเพลงวันเกิดเพื่ออวยพรให้มีอายุถึงหนึ่งร้อยปี และยังมีอีกหลายประเทศที่ให้ความสำคัญกับศตวรรษิกชนและมีการจัดตั้งศูนย์ศตวรรษิกศึกษา ที่ทำการศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของคนร้อยปี
สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มมีผู้ให้ความสนใจศึกษาคนร้อยปีบ้างแล้ว เช่น ในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ต่างๆ มีการจัดตั้งศูนย์และชมรม เช่น ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี เพื่อศึกษาการมีอายุยืนของคนอายุร้อยปี และการดูแลสุขภาพและการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดให้มี "การประกวดแม่ร้อยปี" ในวันแม่แห่งชาติเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 254
สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มมีผู้ให้ความสนใจศึกษาคนร้อยปีบ้างแล้ว เช่น ในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ต่างๆ มีการจัดตั้งศูนย์และชมรม เช่น ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี เพื่อศึกษาการมีอายุยืนของคนอายุร้อยปี และการดูแลสุขภาพและการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดให้มี "การประกวดแม่ร้อยปี" ในวันแม่แห่งชาติเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 254
“คนที่อายุ 100 ปีขึ้นถือว่าเป็นกลุ่มคนพิเศษที่อาจจะพบได้ไม่ถึง 0.001 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เกิดมาในรุ่นราวคราวเดียวกัน สิ่งที่เราต้องการศึกษาเกี่ยวกับคนร้อยปี คือ รวบรวมข้อมูลว่าคนเหล่านี้มีจำนวนจริงๆ เท่าไหร่กันแน่ เป็นใครบ้างและอยู่ที่ไหนในเมืองไทย หากมีการจัดการข้อมูลเป็นระบบ ทุกปีเราจะสามารถประกาศได้ว่าใครคือคนที่อายุยืนที่สุด และแต่ละปีมีคนที่อายุ 100 ปีเพิ่มขึ้นขนาดไหน”
เบื้องต้นจากการศึกษาโดยใช้การประมาณการทางอ้อมจากอัตราการรอดชีพ ประชากรที่จัดอยู่ในกลุ่ม “ศตวรรษิกชน”หรืออายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไปในเมืองไทยน่าจะมีตัวเลขอยู่ที่ราวๆ 1,400 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 900 คน และผู้ชาย 500 คน
อ.ปราโมทย์บอกว่า ปัจจุบันปัญหาในการศึกษาข้อมูลคนร้อยปีในประเทศไทย คือ การขาดหลักฐานยืนยันถึงตัวเลขอายุบุคคลที่ถูกต้องแท้จริง เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของข้อมูลทะเบียนราษฎร ที่ผ่านมามีผู้อ้างว่าอายุยืนร้อยกว่าปีมากมายแต่ส่วนมากมักจะไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมายืนยัน
สาเหตุสำคัญเนื่องจากประเทศไทยมีกฎกระทรวงมหาดไทยบังคับการจดทะเบียนคนเกิดคนตายเมื่อปี พ.ศ.2459 ดังนั้นคนที่อายุเกิน 90 ปีขึ้นจึงไม่อยู่ในข่ายบังคับให้จดทะเบียนเกิด เด็กเกิดใหม่จำนวนไม่น้อยที่เพิ่งไปจดทะเบียนเอาตอนอายุมากๆ แล้ว บางคนการแปลงข้อมูลวันเดือนปีเกิดตามปฏิทินสากลไม่ตรงกับความเป็นจริงนอกจากนี้ยังมีรายชื่อบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ยังไม่จำหน่ายชื่อออกไปจากระบบเพราะไม่มีการแจ้งตายด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
“แต่ละปีเรามีโครงการประกวดแม่ 100 ปี มหิดล ซึ่งมีคนส่งข้อมูลมาเยอะ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าจำนวนมากที่ข้อมูลผิดพลาด”
จากการจัดการประกวดหลายปีติดต่อกัน อ.ปราโมทย์ พบว่า บรรดาคุณแม่ที่มีอายุ 100 ปีที่ยังมีสุขภาพสมบูรณ์ผ่านการคัดเลือก หนึ่ง..มักจะนิยมรับประทานอาหารพวกผัก ปลา และกินเนื้อสัตว์น้อยมาก สอง..ส่วนใหญ่จะเป็นคนอารมณ์ดี เกือบทุกคนที่ได้พบจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน หลายคนชอบร้องเพลง สาม..การมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีลูกหลานและคนรอบข้างคอยช่วยดูแลเอาใจใส่การกินการอยู่
“คำถามหนึ่งที่ผมมักจะถามกับคนแก่อายุร้อยปี ว่าทำไมคุณย่าถึงอายุยืน หลายคนตอบคล้ายๆกันหมดว่า “ก็เพราะมันยังไม่ตาย” เขาเองก็ไม่คิดอะไรมาก ในเมื่อยังไม่ตายชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป แต่ถ้าถามผมถึงวันหนึ่งผมอยากจะตายตอนที่เรานอนหลับไปไม่ทรมาน และมีชีวิตอยู่โดยไม่เป็นภาระของใครนั่นน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนอยากได้" อ.ปราโมทย์ ทิ้งท้ายให้แง่คิด
ทีมา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ9 กุมภาพันธ์ 2554
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก