วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

84 พรรษา..ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง


          ดุลยปวีณ กรณ์ฑ์แสง
          หลังบรรยากาศเลือกตั้งใหญ่ผ่านพ้น หนึ่งในภารกิจสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อีกครั้งของงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ

          เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หนึ่งในกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ให้ข้อมูลรายละเอียดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและเหตุการณ์สำคัญที่คนไทยจะมีส่วนร่วมเฉลิมฉลอง โดยหนึ่งในงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เหนือลำน้ำเจ้าพระยาในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ คือ การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ซึ่งขณะนี้กองทัพเรืออยู่ระหว่างฝึกซ้อมและเตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ รูปขบวนเรือ 5 ริ้ว โดยใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ
          นับเป็นอีกครั้งที่ประชาชนจะได้ชื่นชมเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ โดยความยาวขบวนเรือ จากหัวขบวนถึงท้ายขบวน ประมาณ 1,200 เมตร โดยกำลังพลประจำเรือพระราชพิธี ทั้งสิ้น 2,200 นาย           อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้น คือ พิธีเสกและอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ โดยแต่ละจังหวัดจะมีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำสำคัญที่ประชาชนเคารพเลื่อมใส และประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ สถานที่ที่สำคัญ หรือพระอารามหลวงของจังหวัด เพื่อนำเข้าพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ที่ส่วนกลางอีกครั้ง แล้วจึงนำทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ร่วมด้วยการจัดศาสนพิธี การจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล การจัดงานมหรสพสมโภชโดยการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่ และการจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ
          ขณะเดียวกัน สำนักปลัดนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทั่วประเทศ มีส่วนร่วมกันแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมใจประดับธงชาติไทย ธงตราสัญลักษณ์และประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ตามสถานที่ของหน่วยงาน และอาคารบ้านเรือน
          "กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดโครงการประกวดผลงานออกแบบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติจากประชาชนทั่วไป และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยคัดเลือก ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯภาพตราสัญลักษณ์ผลงานออกแบบโดยนายศิริ หนูแดง ใช้เป็นตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ และทรงมีพระราชกระแสให้ปรับแต่งกระต่ายในภาพให้ดูสดใส ร่าเริง เป็นกระต่ายที่ดูแล้วมีอารมณ์ดี" รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว           สำหรับความหมายตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ประกอบด้วยอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. สีเหลืองทอง อันเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ อยู่กลางตราสัญลักษณ์ ขลิบรอบตัวอักษรด้วยสีทอง บนพื้นวงกลมสีน้ำเงิน ล้อมรอบด้วยกรอบโค้งเรียบสีเหลืองทอง หมายความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ ด้านบนอักษรพระปรมาภิไธยเป็นเลข 9 หมายถึงพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยเลข 9 อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ อันเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสมเด็จพระบรมราชาธิราช
          ถัดลงมาด้านข้างซ้ายขวาของอักษรพระปรมาภิไธยมีลายพุ่มข้าวบิณฑ์สีทอง ซึ่งมีสัปตปฎลเศวตฉัตรประดิษฐานอยู่เบื้องบน ด้านนอกสุดเป็นกรอบโค้งมีลวดลายสีทองบนพื้นสีเขียว หมายถึงสีอันเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ อีกทั้งยังหมายถึงความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มเย็น
          ด้านล่างอักษรพระปรมาภิไธยเป็นรูปกระต่ายสีขาว ทรงเครื่องอยู่ในลักษณะกำลังก้าวย่าง อันหมายถึง ปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ตรงกับปีเถาะ ซึ่งมีกระต่ายเป็นเครื่องหมายแห่งปีนักษัตร โดยรูปกระต่ายอยู่บนพื้นสีน้ำเงิน มีลายกระหนกสีทอง อันหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร เบื้องล่างตราสัญลักษณ์เป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทอง เขียนอักษรสีทอง ความว่า พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
          โอกาสนี้ สำนักปลัดนายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้ข้าราชการร่วมกันสวมใส่เสื้อประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯทุกวันอังคาร ซึ่งในปีนี้ไม่ได้เน้นสีใดสีหนึ่ง สามารถสวมใส่ได้ทุกสี ยกเว้นสีดำและสีที่ไม่เป็นมงคล พร้อมกันนี้ ยังได้ดำเนินการจัดทำเข็มที่ระลึกเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งผลิตขึ้นจำนวนจำกัด 2.5 แสนชิ้น โดยจะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวพร้อมเปิดให้ผู้สนใจสั่งจองในเดือนกรกฎาคมนี้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์           นอกจากนี้ ยังเปิดกว้างให้หน่วยงานต่างๆและภาคเอกชนที่มีความประสงค์จะนำตราสัญลักษณ์ไปประดับสิ่งของต่างๆ เช่น เสื้อ ธง สติ๊กเกอร์และสิ่งของที่ระลึก สามารถติดต่อแจ้งคำขออนุญาตมาที่คณะกรรมการฝ่ายพิจารณาการใช้ตราสัญลักษณ์ สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี สอบถามโทร.02-281-7224

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก