วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลุกพลังบวก..เริ่มที่ตัวเรา


โดย... ดลุยปวีณ  กรณฑ์แสง
"คนหนึ่งคนจะทำอะไรได้?" คำถามนี้ทะลุเข้าหู ภาณุ อิงคะวัต ประธานเครือข่ายพลังบวกได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ
หลังจากเริ่มเปิดตัวเครือข่ายขับเคลื่อนอุดมการณ์ "ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย" 4 เดือนที่ผ่านมา 
      พ้นจากปัญหาวุ่นๆ โฆษณา"ขอโทษประเทศไทย"ชุดแรกไม่ผ่านเซ็นเซอร์ ล่าสุด แคมเปญโฆษณาชุดใหม่ของเครือข่ายพลังบวกได้ฤกษ์เปิดตัวตามมากระตุ้นต่อมคนไทยให้ได้คิดตาม"คนหนึ่งคนทำอะไรได้มากกว่าที่คิด..ถ้าลงมือทำ"พร้อมการเปิดเวที Ignite Thailand (อิกไนท์ ไทยแลนด์) ครั้งที่ 2 ปลุกแนวคิดเชิงบวกโดย 21 นักสร้างแรงบันดาลใจ
โดยมีผู้สนใจร่วมกิจกรรมเนืองแน่นหอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
       ภาณุ ยอมรับว่า ถึงตอนนี้หลายคนอาจเริ่มลืมเหตุการณ์เดือนพฤษภาคมไปแล้ว ทำอย่างไรเราถึงจะยังคงพลังที่อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนประเทศไทยยังคงมีพลังเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นภารกิจท้าทายที่ต้องขับเคลื่อนกันอย่างต่อเนื่อง
     "มีคนพูดกับผมเสมอว่าคนคนเดียวจะไปทำอะไรได้ มันเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ เป็นเหตุผลหนึ่งให้เราทำหนังโฆษณาชุดใหม่ออกมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพลังของคนหนึ่งคนสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนประเทศได้ "
       ประธานเครือข่ายพลังบวก บอกว่า คนไทยมักรอให้คนอื่นมาช่วยแก้ปัญหา แต่จริงๆ การเปลี่ยนประเทศไทยทำได้โดยไม่ต้องรอโดยเริ่มที่ตัวเราเองก่อนแล้วค่อยขยายผลไปสู่สังคมและประเทศชาติ นอกจากนี้ ยังจับมือกับเครือข่ายกลุ่ม we voice ซึ่งเป็นสำนักโพลล์และเครือข่ายนักวิชาการร่วมกันตั้งเครือข่ายเสียงประชาชน เริ่มทำโพลล์สำรวจความคิดเห็นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามมาด้วยการเตรียมงานร่วมกับปราชญ์ชาวบ้านเพื่อทำโครงการธนาคารต้นไม้ เพื่อลดช่องว่างทางสังคม และร่วมกับสมาคมโฆษณาในการพัฒนาสื่อเชิงบวกเพื่อสร้างพลังเปลี่ยนแปลงสังคม
      ค่ำคืนเดียวกันยังมีการจัดกิจกรรมเปิดเวทีปลุกพลังบวก หรือ Ignite Thailand (อิกไนท์ ไทยแลนด์) ครั้งที่ 2 ซึ่งขยับขยายจากงานครั้งแรกที่มีผู้ฟัง 700 คนที่ลุมพินีสถาน ย้ายมาจัดที่หอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งรองรับผู้ฟังได้ถึง 1,300 คน คืนนั้นผู้คนทั้งหอประชุมได้ซาบซึ้งไปกับเรื่องราวของ"เอกชัย"เพื่อนผู้พิการที่สร้างแรงบันดาลใจพลิกแง่คิดการใช้ชีวิตให้กับ ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ เจ้าของหนังสือเดินสู่อิสรภาพที่เริ่มต้นออกเดินเท้ากว่า 1,000 ก.ม.จากเชียงใหม่กลับสู่บ้านเกิดที่เกาะสมุย
   ส่วน "หนุ่มเมืองจันทน์" หรือ สรกล อดุลยานนท์ ก้าวขึ้นเวทีพร้อมลีลานำเสนอแทรกมุกตลกชวนอมยิ้มกับวิธีพลิกจากเครื่องหมายลบ (-) ให้เป็นเครื่องหมายบวก (+) ด้วยการเปิดใจและเปิดโอกาสให้กับสิ่งที่เราไม่รู้ ยังมีเรื่องเล่าประสบการณ์ของการเป็นคนตาบอด 7 วันที่ทำให้ อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส ได้ตาสว่าง-ใจสว่าง นอกจากนี้ ยังมีอดีตวิศวกรที่กลายเป็นคนทุพพลภาพสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ ปรีดา ลิ้มนนทกุล กับภารกิจสร้างเครือข่ายอาชีพให้กับผู้พิการ ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตโดยบริษัทที่ก่อตั้งโดยคนพิการเพื่อคนพิการ ผู้สนใจดูบล็อกของเขาได้ที่ http://byheartbuyheart.blogspot.com 
   ภายในคืนเดียวบนเวทีอิกไนท์มีผู้พูดทั้งหมด 21 คนจากหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้บริหารค่ายดีแทคกับบทบาทของคุณพ่อที่ทำให้เขาค้นพบสุขภาพดีๆ ด้วยการวิ่งทุกเช้าที่สวนลุมฯ, ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้านจากบุรีรัมย์กับการจุดประกายการก่อตั้งกรมราษฎรส่งเสริม โดยมีมหาชีวาลัยอีสาน เป็นยาขมหม้อใหญ่สร้างศูนย์การเรียนรู้ให้กับคนอีสาน, จิตร์ ตัณฑเสถียร กับหัวข้อ"ขอคืนพื้นที่ใจ"ชวนเปิดพื้นที่ให้กับความว่างในจิตใจเพื่อที่จะได้สัมผัสกับความสุข เป็นต้น
  ผู้สนใจติดตามแนวคิดดีๆ และเรื่องราวแรงบันดาลใจปลุกบวกเปลี่ยนประเทศไทย สามารถติดตามข้อมูลโดยรายละเอียดได้ทาง www.ignite.in.th และ http://facebook.com/PositiveNetwork 
                                        --------------------------------


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก