วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รำลึกชีวิตวิชาการ อาจารย์อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ ขึ้นเวทีรำลึกความหลังเมื่อครั้งเป็น อาจารย์อภิสิทธิ์ แห่งเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เผยชีวิตนักวิชาการมีความสุขสุดๆ






โบกมือลา 'ห้องเลคเชอร์' วิชาเศรษฐศาสตร์ไปนานร่วมๆ 20 ปี สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีโอกาสกลับมาร่วมงานคืนสู่เหย้า 60 ปีเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ขึ้นเวทีรำลึกความหลังสมัยเป็น 'อาจารย์อภิสิทธิ์' สอนหนังสือที่คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ พร้อมแง่คิดคมๆ ถึงความท้าทายประชาคมชาวเศรษฐศาสตร์ 

ก่อนอื่นนายกรัฐมนตรีบอกว่า ต้องขอบคุณคณบดีในขณะนั้น (รศ.ดร.สุพจน์ จุนอนันตธรรม) ที่กรุณารับเขาเป็นอาจารย์ใหม่ เพราะมหาวิทยาลัยหลายแห่งมีนโยบายว่า จะรับเฉพาะอาจารย์ที่จบปริญญาเอกเท่านั้น ตอนนั้นอภิสิทธิ์เพิ่งจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด แถมตอนสอบสัมภาษณ์ยังกล้าพูดตรงไปตรงมาอีกด้วยว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่ตั้งใจจะลาออกไปลงสมัครผู้แทนฯ 

"ตอนนั้นอาจารย์คงประเมินแล้วว่าถึงลงสมัครก็คงสอบตก เลยคิดว่าผมคงจะอยู่กับคณะได้นาน" อภิสิทธิ์ปล่อยมุขเรียกเสียงหัวเราะ 

แม้จะทำงานเป็นอาจารย์เพียงช่วงสั้นๆ ระหว่างปี 2533-2534 แต่ก็เป็นช่วงเวลา 1 ปีเศษๆ ที่เขา 'มีความสุขมาก' เพราะได้มีโอกาสทำงานกับหลายคนที่น่าเคารพนับถือ

ก่อนจะหยิบยกคำพูดของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตคณบดีเศรษฐศาสตร์ช่วงปี 2507 ที่เรียกเสียงปรบมือกึกก้อง เป็นข้อคิดที่ปรมาจารย์ด้านเศรษฐศาตร์เคยย้ำไว้หนักแน่นว่า 

"พวกเราเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ในการแสวงหาความจริงและในการปฏิบัติวิชาชีพของเรา ไม่เพียงแต่จะต้องรอบรู้และมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่เราจะต้องซื่อตรง พร้อมทั้งมีความซื่อตรงพอที่จะสามารถเรียกร้องให้คนอื่นซื่อตรงด้วย" 

อภิสิทธิ์บอกว่า ค่านิยมเรื่อง 'ความซื่อตรง' เป็นเบ้าหลอมที่ดีที่สุดของนักเศรษฐศาสตร์ แม้จะจบจากรั้วมหาวิทยาลัยไปแล้ว ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในหน่วยงานรัฐหรือเอกชน หรือไม่ว่าที่ใดก็ตาม หากยึดถือและสืบทอดค่านิยมนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของสังคมที่จะยืนหยัดความถูกต้องซึ่งเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุดของบ้านเมือง 

แม้แต่ตัวเขาเองที่เข้ามาอยู่ในวงการการเมืองซึ่งมีทั้งเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ ค่านิยมนี้เป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด แต่ก็ตั้งใจจะยืนหยัดพิสูจน์ให้ได้ว่า ความซื่อตรงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นในวงการการเมืองไทยได้ 

"ถ้ายืนไม่ได้เพราะต้องเสียตรงนี้ไป ผมยินดีครับที่จะกลับไปทำอย่างอื่น ถึงตอนนั้นกรุณารับผมกลับเข้าทำงานด้วยนะครับ (หัวเราะ)" 

ก่อนลงจากเวทีค่ำคืนนั้น อภิสิทธิ์ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า ยุคนี้เป็นยุคที่ท้าทายนักเศรษฐศาสตร์อย่างมาก โดยเฉพาะทุกครั้งที่โลกหรือบ้านเมืองเผชิญภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ มักจะมีคำถามว่า ทำไมนักเศรษฐศาสตร์ไม่สามารถเตือนล่วงหน้า ชี้ทางสว่าง หรือมีสูตรสำเร็จคำตอบต่างๆให้กับสังคมได้ ถึงขนาดมีคำพูดกล่าวหาแรงๆว่า นักเศรษฐศาสตร์เก่งที่สุดกับการอธิบาย 'ตัวเลข' ของเมื่อวาน

ความท้าทายจึงขึ้นอยู่ที่ว่า จะประยุกต์หรือปรับใช้หลักวิชาและทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำมากกว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีเจ้าของดีกรีมหาบัณฑิตเศรษฐศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ด เขายังทิ้งท้ายว่า อยากเห็นเมืองไทยมีงานวิจัยด้านสถาบัน มากกว่านี้ เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างมากขึ้น

โดย : ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก