วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ดินเนอร์นี้..มีแต่เศรษฐีระดับประเทศ


          คาดการณ์กันว่าเศรษฐีผู้มั่งคั่งมีเงินออมในบัญชีอู้ฟู่ตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป หรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม High Net Worth ในเมืองไทยมีจำนวนราวๆ 18,000 คน ในจำนวนนี้ 500 คนมารวมตัวสังสรรค์กระทบไหล่กันในงาน ‘Make A Wish’ ซึ่ง “คุณปั้น” บัณฑูร ล่ำซำ หัวเรือใหญ่เครือธนาคารกสิกรไทย เชื้อเชิญลูกค้าคนสำคัญมาร่วมดื่มด่ำค่ำคืนสุดพิเศษกับดินเนอร์สุดหรูสไตล์ไชนีส-เวสเทิร์นจากโรงแรมโอเรียนเต็ล เคล้ามิวสิคัลโชว์ชุดพิเศษ “รองเท้าของพ่อ”

โดยมีบรรดาหนุ่มสาว Private Banker คอยทำหน้าที่ดูแลแขกคนสำคัญ ตั้งแต่บริเวณโถงทางเข้างานซึ่งเนรมิตให้เป็น “Wish Gallery” รวบรวมแรงบันดาลใจชิ้นเอกและของสะสมล้ำค่ำ ทั้งภาพเขียนมูลค่านับสิบล้าของ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต รถคลาสสิกสุดหรู และกล้องถ่ายรูปยุคโบราณ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
          ไล่เรียงเฉพาะแขกคนพิเศษที่ร่วมโต๊ะวีไอพี อาทิเช่น ดร.สุขุม-เมธ์วดี นวพันธ์,พรสิทธิ์-ดร.สุณี ศรีอรทัยกุล,สุรินทร์-สมพร โอสถานุเคราะห์, ฐาปน-ปภัชญา สิริวัฒนภักดี,เจริญ พูลวรลักษณ์,ฤทธิ์ ธีระโกเมน,พิพัฒ พะเนียงเวทย์,ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์,ปราโมทย์ พสวงศ์,ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม,ปัญญา นิรันดร์กุล,ชฎาทิพ จูตระกูล, ศุภลักษณ์ อัมพุช,สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ,หทัยรัตน์ จุฬางกูร,นุชรี อยู่วิทยา ฯลฯ           มูลค่าธุรกิจและความมั่งคั่งของเศรษฐีแถวหน้าที่มาชุมนุมในงานเหล่านี้มหาศาลไม่ใช่น้อย หากสิ่งที่มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่ากัน คือ พลังแห่งการสร้างสรรค์ หรือ Creative power กับวิญญาณการต่อสู้ หรือ Fighing spirit จากคนที่สร้างธุรกิจจากความฝันเล็กๆ จนกลายเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการจัดงานนี้ตามความตั้งใจของคุณปั้น นอกเหนือไปจากรีแบรนดิ้งบริการ KGroup Private Banking บริหารการเงินส่วนบุคคลให้กับลูกค้าเศรษฐีกลุ่ม High Net Worth ที่มีความมั่งคั่งตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมบริการพิเศษตั้งแต่รถลีมูซีนรับ-ส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินต่างประเทศ บริการเลขาฯส่วนตัว 24 ชั่วโมงทั่วโลก เช่น จัดหาสินค้าหายาก จัดส่งของขวัญ บริการจองคิวนัดแพทย์ สำรองการเข้าใช้สนามกอล์ฟ เป็นต้น
          เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ยักษ์ใหญ่สถาบันการเงินงัดกลยุทธ์มัดใจลูกค้า ในวันที่เศรษฐีผู้มั่งคั่งหลายคนเริ่มต้องชั่งใจแล้วว่าจะนำเงินไปลงทุนอะไรดี ในยุคที่สถาบันรับประกันเงินฝากจะลดเพดานการคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย ดีเดย์ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
          ยอดวิชาจากพ่อ
          ฉากปะทะอารมณ์ระหว่างคู่พ่อลูกนักธุรกิจเปิดม่านละครเวทีในงานเลี้ยงค่ำคืนพิเศษ ดุเดือดและตึงเครียดไม่น้อยไปกว่าช่วงหนึ่งในชีวิตวัยหนุ่มของ “คุณปั้น” บัณฑูร ล่ำซำ ทายาทที่รับช่วงต่อธุรกิจจนกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเครือกสิกรไทย เปิดใจในปาฐกถาพิเศษ หยั่งลึกถึงความรู้สึกก้นบึ้งของเจ้าของธุรกิจนับ 500 คนในงาน ซึ่งคนกลุ่มหนึ่งเป็นรุ่นบุกเบิกสร้างธุรกิจ และอีกกลุ่มหนึ่งคือทายาทที่ต้องสืบทอดความมั่งคั่งและแรงกดดันสร้างธุรกิจต่อ
          “..ในชีวิตของผมก็ได้เจอเหตุการณ์ที่ต้องรับช่วง ได้เข้าใจว่าความกดดันของผู้ที่ส่งต่อกับผู้ที่รับมีกันทั้งสองฝ่าย สมัยก่อนผมไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อผมถึงเคี่ยวเข็ญจะต้องไปเรียนวิชานั้นวิชานี้ ต้องเรียนวิศวะ ต้องเรียนไฟแนนซ์ มาร์เก็ตติ้ง หลายอย่างผมไม่เห็นด้วย เพราะไม่ชอบถูกบังคับ..ผมก็มีปฏิกิริยาเหมือนกัน แต่ก็ทำตาม”          คุณปั้นเปิดใจเล่าถึงช่วงต้นๆ ของชีวิตการทำงานซึ่งเคยมีความตึงเครียดระหว่างคนสองรุ่น รุนแรงไม่น้อยไปกว่าอารมณ์ที่สะท้อนในละครเวที
          “ ไม่มีใครรู้ว่าผมเคยหนีออกจากบ้าน ในช่วงที่ทำงานที่กสิกรไทย จากความกดดัน..พ่ออยากให้เป็นอย่างนั้นให้เป็นอย่างนี้  แต่พอวันนี้เรามารับช่วง..อายุมากขึ้น หันไปดูหลายอย่างก็เข้าใจว่า ทำไมพ่ออยากให้ทำอย่างนั้นหลายเรื่องต้องยอมรับในวิสัยทัศน์”
          คุณปั้นเล่าถึงตัวอย่างวิชาหนึ่งที่ยังได้ใช้จนติดตัวตัวมาถึงวันนี้ คือ วิชาพูดต่อหน้าชุมชน ในชีวิตการทำงานปัจจุบันใช้มากกว่าวิชาอื่นทั้งหมด เป็นวิชาทรงพลังที่อยากแนะนำผู้บริหารที่ก้าวเข้ามารับช่วงต่อ รวมทั้งฝากถึงคนรุ่นหลังซึ่งอาจมีกดดันในความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับผู้ใหญ่ ที่สุดแล้ววันหนึ่งข้างหน้าจะพบว่าหลายๆ เรื่องมาจากวิสัยทัศน์ ความหวังดี และความรักอย่างแท้จริง
          “ คุณพ่อผมจากไปเกือบ 20 ปีแล้ว ตอนนั้นยังไม่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจปี 1997 ด้วยซ้ำ ไม่ได้เห็นรีเอ็นจิเนียริ่ง ไม่ได้เห็นแม้กระทั่งตึกสำนักงานใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เห็นแม้กระทั่งความเป็นเครือของธนาคารกสิกรไทย แต่ถ้าวันนี้เขามองย้อนกลับมาจากที่ไหนสักแห่งว่าทีมงานของเครือกสิกรไทยสามารถสร้างธุรกิจและความมั่นใจให้กับลูกค้ามาใช้บริการได้ ผมหวังว่าเขาคงดีใจ...”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก